ปัญหาสีทาบ้านต่างๆ พร้อมวิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้น อัพเดทฉบับ 2024
สารบัญ
ปัญหาสีทาบ้าน
สีทาบ้านเป็นองค์ประกอบสำคัญในการแต่งบ้าน แต่บางครั้งก็อาจเกิดปัญหาต่างๆ ขึ้นได้ เช่น สีลอกล่อน สีแตกลายงา สีมีรอยด่างดำ หรือสีพอง เป็นต้น ปัญหาเหล่านี้อาจเกิดจากสาเหตุหลายประการ เช่น การเตรียมพื้นผิวไม่ถูกต้อง เลือกใช้สีทาบ้านที่ไม่เหมาะสม หรือสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย
หากพบปัญหาสีทาบ้าน สามารถทำได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ดังนี้
1. สีลอกล่อน
หากสีทาบ้านลอกล่อน ให้ลอกสีเก่าออกให้หมด จากนั้นทารองพื้นให้ทั่วก่อนทาสีใหม่ สีลอกล่อนเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในการทาสีบ้าน ตัวอย่างปัญหาสีลอกล่อน สีลอกล่อนเป็นบริเวณเล็กๆ อาจเป็นเพราะพื้นผิวไม่เรียบเสมอกัน มีรอยแตกร้าว หรือมีรอยคราบสกปรก ปัญหานี้อาจเกิดจากสาเหตุหลายประการ เช่น
- การเตรียมพื้นผิวไม่ถูกต้อง เช่น พื้นผิวไม่เรียบเสมอกัน มีรอยแตกร้าว หรือมีรอยคราบสกปรก
- เลือกใช้สีทาบ้านที่ไม่เหมาะสมกับพื้นผิว เช่น สีทาบ้านสำหรับภายนอกทากับผนังภายใน
- สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย เช่น อากาศร้อนจัด อากาศหนาวจัด หรือมีความชื้นสูง
วิธีแก้ไขสีลอกล่อนมีดังนี้
- ลอกสีเก่าออกให้หมด ใช้เกรียงหรือกระดาษทรายขูดสีเก่าออกให้หมด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสีเก่าลอกออกจนหมด ไม่เหลือคราบสีเก่าติดอยู่
- ทำความสะอาดพื้นผิว ใช้แปรงปัดฝุ่นหรือน้ำยาทำความสะอาดสีทาบ้านทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาด เช็ดให้แห้งสนิท
- ทาสีรองพื้น ทาสีรองพื้นให้ทั่วพื้นผิว เพื่อช่วยให้สีใหม่ยึดเกาะได้ดียิ่งขึ้น เช่น
-
TOA Contact Primer น้ำยารองพื้นปูนเก่า
-
Beger Flexi Cool Primer B-2800 สีรองพื้นอเนกประสงค์ สำหรับปูนเก่ามีรอยแตกงา
-
Captain Super Nano Primer รองพื้นปูนอเนกประสงค์ เกรดพรีเมี่ยม สูตรน้ำกลิ่นอ่อน
-
Dulux PrimerShield สีรองพื้นปูนอเนกประสงค์ ทนความชื้นสูง
- ทาสีใหม่ ทาสีใหม่ทับสีรองพื้นตามขั้นตอนที่ระบุบนฉลาก ทิ้งให้สีแห้งสนิทตามระยะเวลาที่กำหนด
เคล็ดลับ
- หากสีลอกล่อนเป็นบริเวณเล็กๆ ให้ใช้กระดาษทรายขัดสีเก่าออก จากนั้นทาสีใหม่ทับ
- หากสีลอกล่อนเป็นบริเวณกว้าง ให้ลอกสีเก่าออกให้หมด จากนั้นทาสีรองพื้นให้ทั่วก่อนทาสีใหม่
- ควรทาสีใหม่ทับสีรองพื้นอย่างน้อย 2 รอบ เพื่อให้ได้สีที่สม่ำเสมอและสวยงาม
หากพบปัญหาสีลอกล่อน ควรแก้ไขโดยเร็วที่สุด เพื่อให้สีทาบ้านดูสวยงามและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
2. สีแตกลายงา
ปัญหาสีทาบ้านแตกลายงา แตกเป็นรอยร้าวเล็กๆ ที่มีขนาด 0.3 มิล ขึ้นไป อาจจะเป็นหนึ่งในปัญหายอดฮิตของทุกบ้านเลยก็ว่าได้ จึงนับได้ว่าเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในการทาสีบ้าน สาเหตุของปัญหานี้อาจเกิดจากหลายประการ เช่น
- การเตรียมพื้นผิวไม่ถูกต้อง เช่น พื้นผิวไม่เรียบเสมอกัน มีรอยแตกร้าว หรือมีรอยคราบสกปรก
- เลือกใช้สีทาบ้านที่ไม่เหมาะสม กับสภาพอากาศและการใช้งาน เช่น นำสีทาภายในมาใช้ทาภายนอก
- สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย เช่น อากาศร้อนจัด อากาศหนาวจัด หรือมีความชื้นสูง
วิธีแก้ไขสีทาบ้านมีรอยแตกลายงามีดังนี้
- ตรวจสอบสาเหตุของปัญหา ก่อนทำการแก้ไข ควรตรวจสอบสาเหตุของปัญหาก่อนว่าเกิดจากอะไร หากเกิดจากสาเหตุที่แก้ไขได้ ควรแก้ไขสาเหตุก่อน จากนั้นจึงทำการซ่อมแซมสีทาบ้าน
- ทำการซ่อมแซมรอยแตก หากมีรอยแตกลายงาในผิวทาบ้าน คุณควรใช้กราวท์ซีลเนอร์หรือฟิลเลอร์เพื่อปิดรอยแตกนี้. กราวท์ซีลเนอร์สามารถป้องกันความชุ่ยของรอยแตกลายงาในอนาคต.
- ทำความสะอาดพื้นผิว ใช้แปรงปัดฝุ่นหรือน้ำยาทำความสะอาดสีทาบ้านทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาด เช็ดให้แห้งสนิท
- ทาสีรองพื้น ทาสีรองพื้นให้ทั่วพื้นผิว เพื่อช่วยให้สีใหม่ยึดเกาะได้ดียิ่งขึ้น
- ทาสีใหม่ ทาสีใหม่ทับสีรองพื้นตามขั้นตอนที่ระบุบนฉลาก ทิ้งให้สีแห้งสนิทตามระยะเวลาที่กำหนด
เคล็ดลับ
- หากสีแตกลายงาเป็นบริเวณเล็กๆ ให้ใช้กระดาษทรายขัดสีเก่าออก จากนั้นอุดด้วยโป๊ว เช่น TOA Arcylic Filler , Beger Arcrylic Filler, Captain Arcrylic Filler, Wall Putty Bosny
- หากสีแตกลายงาเป็นบริเวณกว้าง ให้ลอกสีเก่าออกให้หมด จากนั้นอุดด้วย PU Sealant
- ควรทาสีใหม่ทับสีรองพื้นอย่างน้อย 2 รอบ เพื่อให้ได้สีที่สม่ำเสมอและสวยงาม
ตัวอย่างปัญหาสีแตกลายงา
- สีแตกลายงาเป็นบริเวณเล็กๆ อาจเป็นเพราะพื้นผิวไม่เรียบเสมอกัน มีรอยแตกร้าว หรือมีรอยคราบสกปรก
- สีแตกลายงาเป็นบริเวณกว้าง อาจเกิดจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย เช่น อากาศร้อนจัด อากาศหนาวจัด หรือมีความชื้นสูง
- สีแตกลายงาเป็นบริเวณรอบหน้าต่างหรือประตู อาจเกิดจากความชื้นจากภายนอกซึมเข้ามา
หากพบปัญหาสีแตกลายงา ควรแก้ไขโดยเร็วที่สุด เพื่อให้สีทาบ้านดูสวยงามและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
คำแนะนำเพิ่มเติม
หากสีแตกลายงาเป็นบริเวณกว้าง และเกิดจากปัญหาความชื้นจากภายนอกซึมเข้ามา แนะนำให้ปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการซ่อมแซมผนังที่มีปัญหาความชื้นก่อนทาสีใหม่
3. สีพอง
สีทาบ้านพอง เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในการทาสีบ้าน สาเหตุของปัญหานี้อาจเกิดจากหลายประการ เช่น
- ความชื้น ความชื้นเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สีทาบ้านพอง โดยเฉพาะบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น บริเวณรอบหน้าต่าง ประตู หรือบริเวณที่สัมผัสกับน้ำโดยตรง
- ปัญหาโครงสร้าง ปัญหาโครงสร้าง เช่น รอยแตกร้าวหรือรอยแตกแยกของผนัง อาจทำให้สีทาบ้านพองได้
- การเตรียมพื้นผิวไม่ถูกต้อง การเตรียมพื้นผิวไม่ถูกต้อง เช่น พื้นผิวไม่เรียบเสมอกัน มีรอยแตกร้าว หรือมีรอยคราบสกปรก อาจทำให้สีทาบ้านพองได้
- เลือกใช้สีทาบ้านที่ไม่เหมาะสม เลือกใช้สีทาบ้านที่ไม่เหมาะสมกับสภาพอากาศหรือการใช้งาน อาจทำให้สีทาบ้านพองได้
เคล็ดลับ
- หากสีพองเป็นบริเวณเล็กๆ ให้ใช้กระดาษทรายขัดสีเก่าออก จากนั้นทาสีใหม่ทับ
- หากสีพองเป็นบริเวณกว้าง ให้ลอกสีเก่าออกให้หมด จากนั้นทาสีรองพื้นให้ทั่วก่อนทาสีใหม่
- ควรทาสีใหม่ทับสีรองพื้นอย่างน้อย 2 รอบ เพื่อให้ได้สีที่สม่ำเสมอและสวยงาม
ตัวอย่างปัญหาสีพอง
- สีพองเป็นบริเวณเล็กๆ อาจเป็นเพราะพื้นผิวไม่เรียบเสมอกัน มีรอยแตกร้าว หรือมีรอยคราบสกปรก
- สีพองเป็นบริเวณกว้าง อาจเกิดจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย เช่น อากาศร้อนจัด อากาศหนาวจัด หรือมีความชื้นสูง
- สีพองเป็นบริเวณรอบหน้าต่างหรือประตู อาจเกิดจากความชื้นจากภายนอกซึมเข้ามา
หากพบปัญหาสีพอง ควรแก้ไขโดยเร็วที่สุด เพื่อให้สีทาบ้านดูสวยงามและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
คำแนะนำเพิ่มเติม
หากสีพองเป็นบริเวณกว้าง และเกิดจากปัญหาความชื้นจากภายนอกซึมเข้ามา แนะนำให้ปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการซ่อมแซมผนังที่มีปัญหาความชื้นก่อนทาสีใหม่
สรุป
ปัญหาสีทาบ้านสามารถแก้ไขได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง หากปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้น จะช่วยให้บ้านของคุณมีสีสันสดใสและสวยงามอยู่เสมอ